วิตามิน คลินิก
Vitamin Clinic
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง มีชีวิตที่ยืนยาว
สูตร Energy Boost Up
ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงขึ้นในช่วงที่ต้องให้คีโม(chemotherapy) และฉายแสงรังสีรักษา เพียง 4,000 บาท
สูตร Basic
ร่างกายอ่อนเพลีย ต้องการเพิ่มสารน้ำ
เพิ่มพลังงานทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น + วิตามินสูตรธรรมดา เพียง 2000 บาท
สูตร Immune Boost UP
เสริมภูมิต้านทาน ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ นอนไม่หลับ เพียง 3,000 บาท
สูตร Allergy Detox
สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ ไมเกรน
เพียง 3,000 บาท
สูตร Liver Detox
สำหรับคนที่เป็นโรคตับล้างพิษจากแอลกอฮอล์
ผู้ที่กินยาเยอะเยอะ ผู้ที่ได้รับสารเคมีมาเยอะ
ไขมันพอกตับ เพียง 4,000 บาท
สูตร Liver Detox Plus
สำหรับคนที่เป็นโรคตับขั้นรุนแรง อ่อนเพลียมาก โรคตับแข็งระยะสุดท้ายต้องการเห็นผลชัดเจนมากขึ้น เพียง 6,000 บาท
Be Wellness
Signature Vitamin
โปรแกรมวิตามิน ตัวช่วยใหม่สำหรับผู้อ่อนเพลียทานได้น้อย นอนหลับยาก
สูตรการให้วิตามินและเกลือแร่ทางหลอดเลือดดำประกอบด้วย วิตามินซี วิตามินบีรวม (บี1 บี6 บี12) แคลเซียม แมกนีเซียม กรดอะมิโนจำเป็น
ประโยชน์หลักๆที่ได้จาก Be Wellness Signature Vitamin ได้แก่
- ช่วยละลายเสมหะในหลอดลม ลดอาการหอบหืด หายใจลำบากแน่นหน้าอก
- ช่วยลดอาการปวดศรีษะจากไมเกรนเนื่องจากผู้ป่วยไมเกรนมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงจากภายในร่างกายและสิ่งแวดล้อมภายนอกมากกว่าปกติทำให้เส้นประสาทรอบๆสมองเกิดการอักเสบ หลอดเลือดหดตัว ทำให้หลั่งสาร serotonin ออกมาทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน วิตามินสูตรนี้จะทำงานโดยการขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่สมองลดการหลั่ง serotonin ได้
- การนอนหลับดีขึ้น
- ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหัวใจมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งอาการแพ้ต่างๆ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้
- ช่วยตอบสนองความต้องการในการใช้พลังงานของกล้ามเนื้อในการทำงานอย่างเร่งด่วนทันทีทันใด สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานอย่างรวดเร็วและรุนแรง เช่น นักกีฬาในระหว่างการแข่งขัน
- ช่วยบำรุงผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้
ข้อดีของการฟื้นฟูร่างกาย
ด้วยการฉีดวิตามินโปรแกรม Be wellness
มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
✔️ร่างกายจะสามารถนำวิตามินเข้าไปใช้ในการซ่อมแซมเซลล์ บำรุงร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
✔️นอนหลับสบายขึ้น หลับลึกขึ้น
✔️ไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหาร
✔️ สามารถเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกายได้ทันที
✔️ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
✔️ทำให้ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ
✔️กลุ่มวิตามินบีจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้เจริญอาหารมากขึ้นในช่วงแรกได้
วิธีการรับบริการ
วิตามินและเกลือแร่ จะถูกผสมในน้ำเกลือขวดเล็กๆแล้วฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หยดเป็นเวลาประมาณ 30 นาที และสามารถให้บ่อยได้ตามที่ต้องการ อาจถึงสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง โดยการควบคุมของแพทย์ผู้เชียวชาญ
?สูตร Be wellness signature
วิตามินรวมให้ร่างกายได้รับวิตามินเพิ่มขึ้นจากปกติ
เพียง 4,000 บาท
EDTA IV Chelation Therapy
กำจัดสารพิษโลหะหนัก
EDTA IV Chelation Therapy คีเลชั่นบำบัด ทางหลอดเลือดดำ) คือการกำจัดสารโลหะหนักออกจากร่างกายเพื่อลดสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น การอักเสบของหลอดเลือด ลดการเกิดภาวะลิ่มเลือด โดยใช้สารประกอบประเภทกรดอะมิโนที่เรียกว่า Ethylenediaminetetraacetic Acid (EDTA) ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุโดย EDTA สามารถจับสารโลหะหนักขับออกมาทางปัสสาวะจึงไม่มีการสะสมในร่างกาย ซึ่งต้องควบคุมโดยแพทย์ ซึ่งผ่านการอบรมและอนุมัติโดยสมาคมการแพทย์คีเลชั่นไทยเท่านั้น โดยสมาคมฯรับรองให้ใช้ EDTA สองสูตรแนะนำคือ Calcium Disodium EDTA และ Disodium EDTA
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
- ชาปลายมือ ปลายเท้า ขณะให้ยา
- เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
- คลื่นไส้
- มีไข้
ราคา 1 ครั้ง 6,000 บาท | คอร์ส 10 ครั้ง 35,000 บาท
Super detox
วิตามินดีทอกซ์ร่างกาย 1 เดือน
- Intensive liver detox การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ 1 ครั้งเพื่อล้างพิษตับ ฟื้นฟูเซลล์ตับให้แข็งแรง
- Gut Cleanser ประกอบด้วย berberin ช่วยทำความสะอาดลำไส้ (gut purify)และ wasabi extract ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ขจัดของเสีย 60 แคปซูล ทานวันละ 2 เม็ด พร้อมอาหารเช้า
- Ondamed detox program 1 ครั้งช่วยกำจัดสารพิษที่สะสมมาอย่างยาวนาน ลดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ ลดการปวดเมื่อยต่างๆได้
- ระยะเวลา 90 นาที
- ราคาคอร์ส 9900 บาท
- นัดล่วงหน้า โทร 092-295-4461
ONDAMED
นวัตกรรมคลื่นพลังงานบำบัด เติมพลังงานให้เซลล์ที่อ่อนล้า กลับมาแข็งแรง ทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม
Ondamed เป็นเครื่องที่ให้พลังงานกับเซลล์ โดยอาศัยหลักการที่ว่าทุกเซลล์ในร่างกายของเราประกอบไปด้วยประจุไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า membrane potential หากเซลล์ใดมีการอักเสบ บาดเจ็บ มีปัญหา เซลล์นั้นๆก็จะมีพลังที่ตกไปด้วย Ondamed เปรียบเหมือนเครื่องชาร์ตแบต ที่จะเติมพลังงานให้กับเซลล์นั้นๆ เพื่อให้เซลล์กลับมามีพลังงานเหมือนเดิม และทำหน้าที่ได้ดีตามเดิม
Ondamed ใช้หลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอ่อนๆ สแกนทั่วร่างกาย เพื่อค้นหาบริเวณที่เซลล์ทำงานผิดปกติหรือเสียสมดุล (Primary)โดยวิธีการจับชีพจร (Pulse)เป็นการรับรู้การตอบสนองของร่างกาย (BiofeedbackMethod)กลับคลื่น เมื่อทราบจุดที่เซลล์ผิดปกติหรือเสียสมดุล เครื่องจะส่งคลื่นพลังงานการรักษาเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ซ่อมแซมและรักษาตัวเองในการตรวจและรักษาโดยวิธีคลื่นพลังงานบำบัดนี้จะทราบได้เพียงว่าเซลล์บริเวณใดบ้างที่มีความผิดปกติหรือเสียสมดุล แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าคนไข้เป็นโรคอะไรเพียงแต่พลังงานจะเข้าไปปรับและรักษาเซลล์ในส่วนนั้น ซึ่งการฟื้นตัวของเซลล์ในบริเวณนั้นอาจส่งผลเกี่ยวเนื่องต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายโดยรวมก็ได้
ในการรับการรักษาของแต่ละคนนั้น จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพโดยใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกันบางท่านจะรู้สึกดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก แต่โดยรวมจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนการรับพลังงาน ในครั้งที่ 3 ของการรักษาจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษานั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอยู่ที่ 5‐10 ครั้ง และควรรับการรักษาอาทิตย์ละครั้งอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ครั้ง จึงจะได้ผลดีในระยะยาว (ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล)
ONDAMED เหมาะกับใคร? มีผลข้างเคียงหรือไม่
Q : ทุกคนสามารถเติมพลังงาน และมีสุขภาพดี ด้วย Ondamed ได้ไหม?
A : Ondamed สามารถเข้ากับการรักษาได้ทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และการเติมพลังงานให้กับเซลล์นั้น สามารถทำได้ทั้งผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยและไม่มีอาการ
Q : เมื่อเติมพลังงานแล้ว รักษาโรคอะไรได้บ้าง
A : Ondamed สามารถบำบัด และรักษาได้หลายกลุ่มอาการ เช่น
- กลุ่มอาการอักเสบ และปวดเมื่อยล้ามเนื้อ เช่น เมื่อยเกร็งจากการนั่งทำงาน การอักเสบต่างๆ
- กลุ่มอาการอ่อนเพลีย ร่างกายเสียสมดุลหรือทำงานผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับหลับไม่สนิทกลุ่มอาการด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น โกรธ ฉุนเฉียว สมาธิสั้น อาการซึมเศร้า เครียด
- กลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น ไซนัส ไมเกรน หรือ ภูมิแพ้ต่างๆ เป็นต้น
ออนดาเมดเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ใช้ได้ดีแทบจะในทุกกลุ่มอาการ หรือใช้เป็นตัวเลือกเพื่อบำรุงสุขภาพ สำหรับคนที่ต้องการจะดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ
1 ครั้ง 4,000
4 ครั้ง 15,000
8 ครั้ง 25,000
กายภาพบำบัด
- Hot pack การประคบร้อนเพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการเกร็ง และอาการตึงตัว ของกล้ามเนื้อ
- ultrasound คลื่นความร้อน เป็นอีกวิธีหนึ่งในการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อลดอาการปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อและกระดูก
- stretching ยืดกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดทอนอาการปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อ
- Strength training Exercise การออกกำลังกายแบบการฝึกกล้ามเนื้อ เน้นเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยให้กล้ามเนื้อได้ออกแรง ไปทีละกลุ่มด้วยท่าออกกำลังกายแบบต่างๆ
กายภาพบำบัด
1 ครั้ง 1500 บาท | 6 ครั้ง 9000 บาท แถม ฟรี 1 ครั้ง
โรคเข่าเสื่อม
สาเหตุความเสื่อมของข้อเข่า
1.ความเสื่อมแบบปฐมภูมิ หรือไม่ทราบสาเหตุ เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวกระดูกอ่อนตามวัย
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อควำมเสื่อมของข้อเข่า ได้แก่
- อายุ พบว่า อายุ 40 ปี เริ่มมีข้อเสื่อม อายุ 60 ปี เป็นข้อเข่าเสื่อมได้ถึงร้อยละ 40
เพศ ผู้หญิงพบมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อของร่างกาย - น้ำหนักตัวที่เกิน น้ำหนักตัวมีความสัมพันธ์อย่างมากกับเข่าเสื่อม พบว่าน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น 0.5 กิโลกรัม จะเพิ่มแรงที่กระทำต่อข้อเข่า 1-1.5 กิโลกรัม ขณะเดียวกันเซลล์ไขมันที่มากเกินไปจะมีผลต่อเซลล์กระดูกอ่อนและเซลล์กระดูก ส่งผลให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น
- การใช้งาน ท่าทาง กิจกรรมที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามาก เช่น การนั่งคุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เป็นต้น
- ความบกพร่องของส่วนประกอบของข้อ เช่น ข้อเข่าหลวมกล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง
- กรรมพันธุ์ โรคข้อเข่าเสื่อมมีหลักฐานการถ่ายทอดทางพันธุกรรมน้อยกว่าที่ข้อนิ้วมือเสื่อม
2.ความเสื่อมแบบทุติยภูมิ เป็นความเสื่อมที่ทราบสาเหตุ เช่น เคยประสบอุบัติเหตุมีการบาดเจ็บที่ข้อ เส้นเอ็น การบาดเจ็บเรื้อรังที่บริเวณข้อเข่าจากการทำงานหรือการเล่นกีฬา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เก๊าท์ ข้ออักเสบติดเชื้อ โรคของต่อมไร้ท่อ เช่น อ้วน เป็นต้น
รู้ทันข้อเข่าเสื่อมในระยะแรก
อาการแสดงของโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะแรก เริ่มปวดเข่าเวลามีการเคลื่อนไหว เช่น เดิน ขึ้นลงบันได หรือนั่งพับเข่า อาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพักการใช้ข้อ ร่วมกับมีอาการข้อฝืดขัดโดยเฉพาะเมื่อหยุดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เมื่อขยับข้อจะรู้สึกถึงการเสียดสีของกระดูกหรือมีเสียงดังในข้อ
เมื่อมีภาวะข้อเสื่อมรุนแรง อาการปวดจะรุนแรงมากขึ้น บางครั้งปวดเวลากลางคืน อาจคลำส่วนกระดูกงอกได้บริเวณด้านข้างข้อ เมื่อเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเต็มที่จะมีอาการปวดหรือเสียวบริเวณกระดูกสะบ้า หากมีการอักเสบจะมีข้อบวม ร้อน และตรวจพบน้ำในช่องข้อ ถ้ามีข้อเสื่อมมานานจะพบว่า เหยียดหรืองอข้อเข่าได้ไม่ค่อยสุด กล้ามเนื้อต้นขาลีบ ข้อเข่าโก่ง หลวม หรือบิดเบี้ยวผิดรูป ทำให้เดิน และใช้ชีวิตประจำวันลำบาก มีอาการปวดเวลาเดินหรือขยับ
การฉีดน้ำหล่อลื่นผิวข้อเข่านั้นเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในกรณีที่รับประทานยาหรือทำกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่ดีขึ้น ซึ่งโดยปกติในข้อเข่าระหว่างกระดูกผิวข้อจะมีน้ำไขข้อที่มีความหนืดแทรกอยู่ คอยทำหน้าที่เป็นเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงข้อ ช่วยให้เกิดความหล่อลื่นและลดแรงกระแทก ลดการเสียดสีลง
การฉีดน้ำหล่อลื่นหัวเข่า
แพทย์จะทำการฉีดยาเข้าข้อเข่าที่มีอาการปวดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3-5 สัปดาห์หลังฉีดผู้ป่วยสามารถขยับเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ช่วยลดการปวด มีฤทธิ์ลดการอักเสบ และปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ภายในข้อให้ดีขึ้นเมื่อฉีดครบอาการหายปวดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรง และการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น(ผลการรักษาจะดีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับว่าเริ่มรักษาเมื่อใด หากเริ่มรักษาตั้งแต่ข้อเสื่อมระยะแรกๆก็จะทำให้ข้อคงสภาพอยู่ได้นาน) สารที่ใช้ในการฉีดคือ สาร Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่มีอยู่ในน้ำข้อของมนุษย์ มีลักษณะเหนียว และยืดหยุ่นทำให้ลดแรงกดและแรงกระแทกข้อต่างๆ โดยเฉพาะผิวกระดูกข้อเข่า
ก่อนเข้ารับการรักษาแพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วยอย่างละเอียดเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย การฉีดน้ำหล่อลื่นผิวหัวเข่าไม่แนะนำในผู้ที่ข้อมีการติดเชื้อหรือเป็นโรคผิวหนังในบริเวณที่ฉีดยา การฉีดน้ำหล่อลื่นผิวหัวเข่าไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อาจพบเพียงอาการปวด บวม แดง ได้บ้างเหมือนการฉีดยาทั่วไปซึ่งอาการดังกล่าวสามารถหายได้เอง หรืออาจใช้น้ำแข็งประคบเพื่อช่วยให้อาการดังกล่าวหายเร็วขึ้นและหลังฉีดยาแนะนำให้พักการใช้ข้ออย่างน้อย 2 วัน